ห้องที่ ๑๐๒ : พระราชนิพนธ์


           สิบเศียรสุรภาพผู้ทรงจักร
เหนพยุหรามลักษณ์ลาศแล้ว
รวบรวมนิกรยักษยังหลบ เหลือแฮ
เรวเร่งกลับคืนแคล้วคลาศเข้าเฃตรขันธ์
           ครั้นถึงนัคเรศเข้าคืนวัง
เหนจากคารุงรังรกเรี้ยว
เอะโรงพิธีพังเพราะเหตุ ไฉนนอ
หนักพระไทยพลางเลี้ยวหลีกขึ้นปรางทอง
           เหนมณโฑสถิตยห้องพิมาน
นั่งแอบองค์นงคราญซักไซ้
ด่วนละพิธีการใยนั่น อนุชนา
ใครซึ่งมาบอกให้เลิกร้างจรรยา
           สงครามครานี้เกือบมีไชย
ด้วยปิศาจสุรไกรกาจแกล้ว
เคี่ยวขับกลับสุดขษัยฝูงปิศาจ
เพราะอุทกทิพยแคล้วคลาศช้าเสียเชิง
           แค้นใจไฉนรีบทิ้งทอดกิจ เสียฤๅ
ฤๅว่าอรใคร่สถิตย์แท่นแก้ว
นั่งนานเหนื่อยเมื่อยปฤษฎางค์นัก ฉนั้นฤๅ
เพราะบเคยขาดแคล้วคลาศผู้ผดุงถนอม
           มณโฑตอบถ้อยพระทรงฤทธิ
ไฉนพระจะพานผิดแก่ข้า
พระว่าปัจจามิตรม้วยมอด หมดแฮ
ให้เลิกพิธีคว้าแย่งรื้อโรงเสีย
           ยังพาข้าบาทขึ้นปรางมณี นี้นา
ตรัสว่าพิเภกหนีรอดได้
จะด่วนยกโยธีไปเข่น ฆ่าแฮ
พระเคลือบแคลงคำให้สอบสิ้นสาวสนม
          ทรงสดับสดุดต้องใจนึก แล้วนอ
เหนตรลอดลับฦกล่วงรู้
มณโฑถูกกลศึกเสียกิจ กายนา
ครางร่นบ่นออดอู้อกเพี้ยงเพลิงเผา
           จักเผยพจนออกได้ดังฤๅ
ข่าวจักขจรฦๅโลกยหล้า
ใครอื่นไป่อาจคืออ้ายหณุ มานแฮ
แปลงรูปโดยฤทธิกล้าอาจแกล้งปลอมกู
           ตรัสกระซิบอรรคเรศแก้วกับกรรณ
สมรทราบแสนโศกศัลยสลบล้ม
ราพนาสุรสำคัญขนิฐวอด วายแฮ
ช้อนเกษกระกองก้มภักตรไห้พิไรครวญ
           คลายโศกธสั่งให้นำสุคน ธารเอย
มาชะโลมนฤมลกลับฟื้น
ฟูมฟายพระอสุชลธารถั่ง แถวแฮ
ครวญคร่ำกำสรดิสอื้นโอฐอ้อนวอนทูล
           บดินทรสูรยเสียเกียรดิทั้งเสียกิจ
อัปรยศทั่วทศทิศเพราะข้า
ขอจงพระทรงฤทธิฟันฟาด
ด้วยพระขรรค์คมกล้าเกลื่อนเศร้าบทศรี
           อสุรีโลมลูบเบื้องปฤษฎางค์ ปลอบเอย
เสียใช่เสียสัตยนางอย่าศร้อย
ตัวพี่บมีคลางแคลงจิตร เจ้านา
จงรงับดับละห้อยอย่าไห้โหยหวน
           พลางชวนอรย่างเยื้องยาตรา
เข้าที่ศิริไสยาหย่อนเศ้รา
ยอกรก่ายภักตร์อาวรณวิตก
ดำริห์จะรบเร้าปราบเสี้ยนอรินราม
          สงครามครานี้ช่างเปนไฉน
รบบรู้มีไชยสักครั้ง
ญาติมิตรหมู่พลไกรม้วยมอด
เสียกิจพิธีทั้งอนุชซ้ำเสียสกนธ์
           ตนกูก็เชื้อชาติชายชาญ ไชยเฮย
ไฉนจะนิ่งอัปรมาณหม่นไหม้
จักออกรุกโรมราญอริราช อีกนา
สู้มนุษย์พานรให้สุดสิ้นแรงหาญ
           ตริการตราบม่อยเคลิ้มผธมสนิท
พอผ่องพันแสงสิทธิส่องฟ้า
เสดจสู่พระโรงสถิตย์ทิพยอาศน์
อำมาตย์หมอบเสนอหน้านอบเฝ้าฟังสาร
           โองการกำหนดให้เกณฑ์พหล
ล้วนคู่ใจจุมพลผ่านเผ้า
เจนสาตรทราบสรรพมนต์มีศักดิ์ สูงแฮ
ห้าสิบสมุทเข้าควบตั้งต่อสมร
           มโหธรรับถ้อยท่านบัญชา สั่งเฮย
จัดพยุหเสนานับล้าน
ปันทัพสรรพซ้ายขวาทัพน่า หลังแฮ
ยุกรบัตรกองหลวงต้านต่อเสี้ยนเศิกสยอง
           กรมช้างผูกช้างเซื่องซับมัน
ขุนคชินทรเข้มขันขี่คว้าง
สัปรคับครบเครื่องสรรพาวุธ วางแฮ
พลแวดเชิงชิดข้างขบเขี้ยวกุมคทา
           กรมม้าผูกม้าร่านเริงพยศ
ขุนประจำเจนสกดย่ำน้อย
หัดถ์ทายเทิดทวนชดฉวัดร่อน รำแฮ
พลหอกหาญห้อมต้อยติดข้างเคียงแซง
          กรมรถแต่งรถล้อเหลกเพชร
เทียมดุรงค์พารเห็จลิ่วล้ำ
ขุนน้าวธนูเผด็จศึกสู่ สถิตยแฮ
ทวยธนูศรซ้ำสกดห้อมล้อมสลอน
           พลจรเจนศึกล้วนกุมสาต ตราแฮ
เขนโล่โตมรมาศมากง้าว
ต่างสรวมเกราะกรวมอาตม์องอาจ เอกเอย
พร้อมพรั่งยั้งท่าท้าวธิราชผู้จอมพล
           ฝ่ายพงษกมลาศน์เกล้าลงกา
สรงสหัศธารารื่นเร้า
สอดรัตน์ปิลันทนาภรณเพริศ พรายแฮ
งามเทียบธาดาเจ้าจากฟ้ามาณรงค์
           ทรงวราวุธพร้อมเพรียงหัดถ์
เถลิงพิไชยรถรัตน์รุ่งฟ้า
แสนส่ำอสุรเนืองขนัดขนาบแห่ แหนเฮย
แสงสาตราภรณจ้าจับพื้นแผ่นพะโยม
           เสียงประโคมแข่งอื้อเอิกอึง
เสียงพลุสัญญาตึงตื่นฟ้า
เสียงโห่สท้านถึงพรหมโลกย์
เสียงบาทสเทือนหล้าเล่ห์ด้าวดินไหว
           พลไกรเดินดื่นท้องทางพนม
ลุยเหล่ารุกขรทมเทียบแป้ง
สัตวสิงฆวิ่งซานซมซอนซอก
ผ่านลหานธารแห้งเหือดด้วยดินสลาย
           ถึงชายพนัศยั้งหยุดพล
คอยอมิตรมาผจญจักสู้
สั่งให้โห่อึงอลเว้งหวาด โลกย์แฮ
เตือนทัพโทท้าวรู้เรียกเร้าสงคราม

จบห้องที่ ๑๐๒

  เนื้อความกล่าวถึงเมื่อทศกัณฐ์เห็นพระรามพระลักษณ์นำทัพกลับ จึงรวบรวมพลยักษ์ที่เหลือกลับ เมื่อถึงกรุงลงกาเห็นโรงพิธีถูกทำลายก็สงสัยและกังวลใจ จึงถามนางมณโฑว่าศึกครั้งนี้เกือบจะมีชัยอยู่แล้ว ใครบอกให้เลิกพิธี นางมณโฑจึงทูลว่าทศกัณฐ์เป็นผู้บอกให้เลิก แล้วยังพาขึ้นปรางค์ทองด้วย ทศกัณฐ์นึกรู้ทันทีว่านางมณโฑเสียทีหนุมาน จึงกระซิบบอก ทำให้นางมณโฑเสียใจเป็นลมสลบ เมื่อฟื้นก็ทูลให้ทศกัณฐ์ประหารนางให้พ้นอาย ทศกัณฐ์ปลอบว่ามิได้คลางแคลงใจในตัวนาง รุ่งเช้าทศกัณฐ์สั่งให้จัดทัพใหญ่เกณฑ์ไพร่พลผู้แกล้วกล้าจำนวนมหาศาล แล้วเคลื่อนทัพออกสู่สนามรบ